
เกษตรสังขละบุรีแจ้งเตือนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว!
โปรดเฝ้าระวัง #เพลี้ยกระโดดหลังขาว ซึ่งมักเริ่มเข้าทำลายแปลงข้าวในช่วง 30 วันแรกหลังหว่าน โดยจะพบระบาดได้ตั้งแต่ระยะกล้าไปจนถึงระยะออกรวง
ลักษณะการทำลาย ![]()
ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากโคนกอข้าว ทำให้ต้นข้าวที่ถูกทำลายมีใบสี #เหลืองส้ม ซึ่งเป็นอาการที่แตกต่างจากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (ที่จะทำให้ใบแห้งเป็นสีน้ำตาล) หากระบาดรุนแรงจะทำให้ต้นข้าวเหี่ยวแห้งและตายในที่สุด
การป้องกันและกำจัด ![]()
#ปลูกพันธุ์ต้านทาน: เช่น สุพรรณบุรี60, ชัยนาท1, สุพรรณบุรี1, กข31 โดยอาจปลูกสลับพันธุ์กันในแต่ละฤดูปลูก เพื่อลดการปรับตัวของแมลง
#อนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติ: ส่งเสริมให้มีแมลงศัตรูธรรมชาติในนาข้าว เช่น ด้วงดิน, แมงมุม, มวนเขียวดูดไข่ เพื่อช่วยควบคุมประชากรเพลี้ย
#จัดการน้ำในแปลง: หากสำรวจพบเพลี้ยมากกว่า 1 ตัวต่อต้น ให้ใช้วิธี #ระบายน้ำออก หรือควบคุมระดับน้ำแบบเปียกสลับแห้ง เพื่อรบกวนวงจรชีวิตของเพลี้ย
#ใช้ชีวภัณฑ์: หากเริ่มพบการระบาด สามารถใช้เชื้อราบิวเวอเรีย อัตรา 250 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นในช่วงเย็นที่มีความชื้นสูง
#ใช้สารเคมีเมื่อจำเป็น: หากการระบาดรุนแรง ให้ใช้สารเคมีตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เช่น อิมิดาโคลพริด หรือ ไดโนทีฟูแรน และควรหลีกเลี่ยงสารที่มีพิษร้ายแรงต่อแมลงศัตรูธรรมชาติ
#เกษตรตำบลคนใช้แรงงาน#เพลี้ยกระโดดหลังขาว#เตือนภัยชาวนา#ศัตรูข้าว#ข้าวไทย
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก: ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดพิษณุโลก
